24 ต.ค. 2551

ต้นตะกู เป็นไม้ที่ขึ้นได้ทุกพื้นที่ของประเทศไทย

ต้นตะกู
เป็นไม้ที่ขึ้นได้ทุก พื้นที่ของประเทศไทย ส่วนมากจะขึ้นอยู่ตามป่าริมห้วยและที่เป็นเขาหรือบริเวณบ้าน เป็นไม้ที่ปลูกง่าย โตเร็ว หากมีอายุ 2 ปี ขึ้นไป จะทนต่อสภาวะน้ำท่วมและโดนไฟป่าไม่ตาย
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Anthocephalus chinensis (Lamk.) A. Rich. ex Walp.
ชื่อวงศ์ : RUBIACEAE
ชื่อ อื่นๆ : กรองประหยัน (ยะลา); กระทุ่มบก (กรุงเทพ); โกหว่า (ตรัง); แคแสง (ชลบุรี); ตะกู (จันทนบุรี, นครศรีธรรมราช, สุโขทัย); ตะโกส้ม (ชัยภูมิ, ชลบุรี); ตุ้มก้านซ้วง, ตุ้มก้านยาว, ตุ้มเนี่ยง, ตุ้มหลวง (ภาคเหนือ); ตุ้มขี้หมู (ภาคใต้); ตุ้มพราย, ทุ่มพราย (ขอนแก่น)
ลักษณะ : เป็นไม้ขนาดใหญ่ สูง 15 – 30 เมตร กิ่งออกเกือบตั้งฉากกับลำต้น แผ่นใบเกลี้ยงหรือมีขนนุ่มสั้นอยู่ด้านล่าง หูเป็นรูปสามเหลี่ยม ดอกสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อกระจุกแน่น กลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 – 5 ซ.ม.ก้านช่อยาว 3 – 4 ซ.ม. ดอกเล็กอัดกันแน่น กลีบเลี้ยงเป็นหลอดสั้น กลีบดอกสีเหลือง เชื่อมกันเป็นหลอดยาวรูปดอกเข้ม ผลเป็นกระจุกเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและสีน้ำตาลเมื่อแก่ ขึ้นตามป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น ตามหุบเขาหรือริมลำธาร ต้นตะกูอาจจะไม่คุ้นหู เพราะใกล้สูญพันธ์ในประเทศไทยแล้ว ต้นตะกูยังมีคุณสมบัติพิเศษ คือ ทนต่อความแห้งแล้ง ปลูกง่าย โตเร็ว เพียงแต่ช่วง 1 – 3 เดือนต้องรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ ต้นตะกูเริ่มมีการปลูกบ้างแล้วในหลายพื้นที่ และน่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ที่สามารถทำรายได้ให้แก่เกษตรกร หรือนักลงทุน ได้ไม่น้อยกว่า ไม้สัก ยางพารา หรือยูคาลิปตัส
การกระจาย พันธ์และนิเวศวิทยา : จากอินเดีย จนถึงมาเลเซีย พบขึ้นตามป่าดิบและป่าเบญจพรรณที่ชุ่มชื้นใกล้น้ำ ที่ระดับความสูง 500-1500 เมตร
ประโยชน์ : เนื้อไม้ละเอียด สีเหลืองหรือขาว ใช้ทำพื้นและฝาที่ใช้งานในร่ม และทำเยื่อกระดาษได้
ข้อมูลจากเอกสาร : 3, ไม้ต้นในสวน Tree in the Garden
ปลูกแล้วได้อะไร
1 ไร่ ปลูก 200 ต้น ขายได้ต้นละ 2,000 – 3,000 บาท (ไม้อายุ 5 ปี ขายเข้าโรงงานไม้แปรรูป)
5 ปี = 200 x 2,000 =400,000 บาท /ไร่
3 ปีต่อมา = ตัดตอ 2 ขายได้ต้นละ 600 –700 = 200 x 300 = 60,000 บาท/ไร่
ถ้าได้ราคาอย่างนี้ รับรองเป็นเศรษฐีกันทั่วหน้าครับ

(ท่าน อาจจะฝันหวานไปหรือเปล่า ) ถ้าขายไม่ได้ราคาอย่างที่กล่าวไว้ อย่างน้อยขายได้เท่ากับราคาไม้ที่ไม่มีราคา เช่น ไม้ขนุน,ไม้มะขามเทศ,ไม้งิ้ว หรือไม้เนื้ออ่อนต่าง ๆ เขารับซื้อเป็นตัน ๆ ละ 600 -700 บาท ไม้อายุ 5 ปี ต้นละไม่ต่ำกว่า 1 ตัน ส่วนไม้ตอ 2 ใน 1 ตอมีหลายต้น อายุ 3 ปี จะได้ประมาณ 2 ต้นต่อ 1 ตัน ลองมาคิดดูนะครับ
ลองมาคิดดูแบบว่าพอใช้ได้ ขายเพื่อไปทำกระดาษ ราคาเท่าไม้ยูคา ตันละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท
5 ปี = 200 x 1,000 = 200,000 บาท /ไร่
3 ปีต่อมา = ตัดตอ 2 = 200 x 500 = 100,000 บาท/ไร่

ลองมาคิดดูแบบว่า แย่ที่สุดแล้วนะครับ ขายเป็นแบบไม้เนื้ออ่อนราคาถูกครับ ตันละ 600 – 700 บาท
5 ปี = 200 x 600 = 120,000 บาท/ไร่
3 ปีต่อมา = ตัดตอ 2 ขายได้ต้นละ 600 –700 = 200 x 300 = 60,000 บาท/ไร่

ยังไงก็ยังคุ้มกับการลงทุนนะครับ ถ้าท่านสามารถปลูกพืชแซมที่ให้ผลระยะสั้น ก็จะได้กำไรเพิ่มขึ้นอีกครับ
ถ้าท่านไม่ปลูกพืชแซมเอง ให้คนอื่นปลูกในแปลงของท่าน ท่านก็จะประหยัดค่าแรงงานและค่าปุ๋ยลงไปอีก

12 ต.ค. 2551

วัตถุประสงค์ในการปลูก ต้นตะกู

วัตถุประสงค์ในการปลูก ต้นตะกู

1. ปลูกเพื่อธุรกิจ เป็นการปลูกไม้ตะกูให้ได้ระยะ แล้วทำการตัดโค่นเพื่อขายไม้ท่อนหรือแปรรูป การปลูกลักษณะอย่างนี้จะเป็นการทำงานอย่างจริงจัง โดยจะมีการดูแลบำรุงรักษาอยู่เสมออย่างเป็นขั้นตอน เมื่อถึงระยะตัดโค่นจะทำให้ผู้ปลูกมีรายได้เป็นจำนวนมากและสามารถลงทุนต่อ เนื่องได้

2. ปลูกเป็นผลพลอยได้ เป็นการปลูกตามพื้นที่ว่างในที่ดิน หรือปลูกตามแนวที่ตามคันนา เป็นต้น การปลูกแบบนี้จะทำให้ผู้ปลูกสามารถตัดโค่นไม้ได้จำนวนหนึ่งเมื่อไม้ถึงระยะ ตัดฟัน เมื่อนำมาขายก็จะได้เป็นรายได้ เสริมที่ค่อนข้างดี การปลูกแบบนี้จึงเป็นเหมือนผลพลอยได้บนเนื้อที่ๆ ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์

3. ปลูกเพื่อใช้ไม้ การปลูกแบบนี้จะทำการปลูกต้นไม้ไว้ให้เท่าที่ต้องการใช้ และเมื่อถึงเวลาลูกออกเรือนก็จะตัดไม้ดังกล่าวมาทำการปลูกเรือน

1 ต.ค. 2551

ลักษณะต้นตะกู และต้นตะกูยักษ์

ลักษณะต้นตะกู และต้นตะกูยักษ์

เป็นไม้ที่มีลำต้นสูงเปลา มีขนาดสูง 15-30 เมตร เนื้อละเอียดสีเหลืองนวล แข็งแรงน้ำหนักเบา เปลือกสีน้ำตาล ขรุขระเป็นร่องละเอียดตามแนวลำต้น ลักษณะกิ่ง แตกเป็นแนวทำมุมกับพื้นดินวางตำแหน่งเป็นคู่ในตำแหน่งตรงข้ามกันเป็นช่วงๆ ตามแนวลำต้นแต่ละช่วงสลับกัน ใบเป็นใบเดี่ยวทรงรีคล้ายใบสัก ผิวเนียนละเอียด หลังใบมองเห็นกระดูกใบชัดเจน ใบและก้านมีกลิ่นหอม
โดย จะมีขนาดใบเฉลี่ยโดยประมาณ ด้านกว้าง 12-25 ซ.ม. ด้านยาว 18-30 ซ.ม. ดอกมีสีเขียวอมเหลือง เมื่อแก่จะกลายเป็นสีเหลืองเข้ม มีกลิ่นหอม กลุ่มดอกลักษณะกลม ความโตประมาณ 3.5-7 ซ.ม. กลุ่มดอกจะออกในตำแหน่งปลายกิ่ง ในกลุ่มดอกมีกลีบดอกอัดแน่นจำนวนมาก แต่ละดอกมีกลีบดอก 5 กลีบ ใต้กลีบดอกมีกระเปาะเมล็ด 4 กระเปาะ มีเมล็ดข้างใน เมื่อผลแก่เต็มที่จะร่วงลงตามธรรมชาติ ซึ่งจะมีลักษณะเด่นดังนี้

โตเร็ว ต้นเปลา ตรง ไม่มีกิ่งตามต้นเกะกะเนื่องจากต้นไม้จะทำการสลัดกิ่งตลอดเวลาที่เจริญเติบโต แปรรูปได้ปริมาณไม้ต่อต้นสูง

-ทนแล้ง

-ทนน้ำหรือน้ำท่วมขัง ตะกูสามารถอยู่รอดได้ในพื้นที่น้ำท่วมขัง และสามารถเจริญเติบโตได้เมื่อไม้ฟื้นตัวหลังน้ำลด

-ตะกูจะมีการงอกขึ้นใหม่ได้อีกจากโคนเดิมหลังจากการตัดฟันซึ่งเป็นลักษณะของไม้โตเร็ว ทำให้ผู้ปลูกไม่ต้องลงทุนในการปลูกต้นกล้าหลายรอบ